เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 27 มี.ค. พ.อ.จตุพร กลัมพสุต รอง ผอ.สำนักข่าวกรอง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า พ.ต.อ.กองอรรถ สุวรรณขำ ผกก.สภ.สุไหงโกลก พ.ท.นพดล ภาคาผล ผบ.ฉก.นราธิวาส 36 เจ้าหน้าที่ ดี.เอส.ไอ และเจ้าหน้าที่ชุดนิติวิทยาศาสตร์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันเปิดแผนปฏิบัติการณ์ปราบปรามกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ เขตเทศบาลเมืองสุไหงโกลก จ.นราธิวาส ได้จู่โจมตรวจค้นเป้าหมาย 3 จุด
จุดที่ 1.โรงแรมริเวียร่าโฮเต็ล ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 40 ถ.ประชาวิวัฒน์ ซอย 3 จากการตรวจค้นบริเวณชั้น 2 ของ โรงแรม ซึ่งมีห้องพักจำนวน 10 ห้อง และในแต่ละห้องเจ้าหน้าที่พบอุปกรณ์ในการเล่นการพนันทางอีเล็กทรอนิกส์ออนไลท์ เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องแฟกซ์ บัตรเติมเงินออนไลท์ ตู้เซฟ รวมทั้งเสื้อผ้าและอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับใส่อาหารบริโภค นอกจากนี้ ยังมีห้องพักพิเศษอีก 1 ห้อง สร้างไว้สำหรับออกกำลังกาย โดยที่ผู้อาศัยอยู่ภายในห้องพักของชั้นที่ 2 หากไม่มีกิจธุระจำเป็นก็จะไม่ออกไปสู่โลกภายนอก และขณะเจ้าหน้าที่บุกตรวจค้นพบว่า ไม่มีผู้ใดอาศัยอยู่เลยแม้แต่คนเดียว จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ทราบว่า บริเวณชั้น 2 ของโรงแรมริเวียร่าโฮเต็ล เจ้าของเป็นชาวมาเลเซีย ที่ได้ทำสัญญาเช่าเป็นรายเดือนกับทางโรงแรม
จุดที่ 2 เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นอาคารชั้น 2 ตรงข้ามโรงแรมริเวียร่าโฮเต็ล ซึ่งเจ้าของใช้สำหรับเป็นที่พักของพนักงานโรงแรม ที่ประตูทำด้วยเหล็กดัดข้างบันไดทางขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปภายใน และเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปได้ พบว่าภายในห้องโถงกว้าง ประมาณ 5 เมตร ยาว 15 เมตร พบอุปกรณ์โต๊ะเก้าอี้เป็นจำนวนมาก ที่ใช้สำหรับในการเล่นการพนันได้หลายชนิด เช่น ไพ่บาคาร่า แต่ไม่พบผู้ใดอาศัยอยู่เลย
ส่วนจุดที่ 3 ที่ร้านลาลูน่าคันทรีย์ผับ เลขที่ 21 ซึ่งห่างจากโรงแรมริเวียร่าโฮเต็ล ประมาณ 50 เมตร จากการตรวจค้นบริเวณชั้น 2 พบอุปกรณ์การเล่นการพนันทางอีเล็กทรอนิกส์ออนไลน์ เป็นจำนวนมาก รวมทั้งอุปกรณ์โต๊ะเก้าอี้ ไม่พบผู้ใดอาศัยอยู่เลย
ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดของกลางทั้ง 3 จุด ขึ้นรถจี.เอ็ม.ซี.ของเจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.นราธิวาส 36 เพื่อขนย้ายของกลางทั้งหมดไปยัง สภ.สุไหงโกลก เพื่อนำไปตรวจสอบและขยายผลสู่ผู้เป็นเจ้าของต่อไป
พ.อ.จตุพร เปิดเผยว่า คดีดังกล่าวเราจะเชิญตัวนายธนันชัย พีระนันทสิทธิ์ อายุ 76 ปี หรือเฮียกุ๋ย ซึ่งเป็นเจ้าของโรงแรม มาให้ปากคำซึ่งในเบื้องต้นทราบว่า นายธนันชัยให้การยอมรับว่า เป็นเจ้าของโรงแรมจริง แต่ชาวมาเลเซียได้มาติดต่อเพื่อขอเช่าห้องพักชั้น 2 ทั้งหมดเป็นรายเดือน ตกเดือนละ 1 แสนกว่าบาท ส่วนจะทำอะไรนั้นนายธนันชัยแจ้งว่า ไม่ได้เข้าไปก้าวก่าย แต่ถึงอย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะเชิญตัว เพื่อมาสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง พร้อมหลักฐานการเช่าของชาวมาเลเซีย ว่าได้มีการเช่าจริงหรือไม่อย่างไร
ต่อมาเวลา 12.00 น. ที่กองบังคับการหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 36 อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส พ.อ.จตุพร พ.อ.ยุทธนาม เพชรม่วง รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า นายปรีชา นวลน้อย นายอำเภอสุไหงโกลก พ.ต.อ.กองอรรถ สุวรรณขำ ผกก.สภ.สุไหงโกลก และ พ.ท.นพดล ภาคาผล ผบ.ฉก.นราธิวาส 36 ร่วมเป็นประธานแถลงข่าวผลการบุกจับกุมบ่อนการพนัน จำนวน 3 จุด ในพื้นที่ อ.สุไหงโกลก คือ 1.ที่โรงแรมริเวียร่าโฮเต็ล 2.อาคารบ้านพักพนักงานโรงแรม และ 3.ที่ร้านอาหารลาลูน่าคันทรีย์ผับ พร้อมของกลางเป็นคอมพิวเตอร์ จำนวน 60 เครื่อง ตู้เซฟ 5 ตู้ รถเบ็นส์ 1 คัน รถนิสสันเซฟิโร่ 1 คัน ธนบัตรเงินสดสกุลริงกิตมาเลเซีย สุรา และอื่นๆ
พ.อ.ยุทธนาม กล่าวว่า การจับกุมบ่อนการพนันในครั้งนี้ ผบ.ทบ.ให้นโยบายกับแม่ทัพภาค 4 ให้ทำการปราบปรามผู้มีอิทธิพลในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงมอบหมายให้ชุดเฉพาะกิจในพื้นที่ ดำเนินการใช้บังคับทางกฎหมายกับผู้มีอิทธิพลรายสำคัญๆ
ด้าน พ.อ.จตุพร กล่าวว่า จากการตรวขสอบพบผู้ที่มามีส่วนเกี่ยวข้องในการเล่นการพนันมีหลายพันคน มีทั้งคนในพื้นที่และคนต่างประเทศ โดยมีเงินหมุนเวียนหลายร้อยล้านบาท ซึ่งขณะนี้กำลังตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติม
ขณะที่ พ.ต.อ.กองอรรถ สุวรรณขำ ผกก.สภ.สุไหงโกลก กล่าวว่า ซึ่งการจับกุมในครั้งนี้ พบว่ามีการเล่นการพนันทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งไม่มีตัวบุคคลเป็นผู้เล่น จึงต้องตรวจสอบเครื่องคอมพิวเตอร์อย่างละเอียด รวมถึงความผิดเกี่ยวกับการนำเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ และเรื่องอื่นๆที่ต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดและในครบถ้วน ว่ามีใครผู้ใดเกี่ยวข้องและสามารถจับกุมตัวดำเนินคดีในครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังคงเกาะติดการจับกุมกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่อีกหลายราย ตามนโยบายของ ผบ.ทบ.
ที่มา khaosod.co.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น