ฟุตบอลอุ่นเครื่องที่สนามศุภชลาศัย เมื่อ 27 มี.ค. “ช้างศึก”ทีมชาติไทย ลงสนามพบ “โสมขาว”เกาหลีใต้ ยอดทีมแห่งทวีปเอเชีย ซึ่งทั้งสองทีมโชว์ฟอร์มเยี่ยมผ่านเข้ารอบ 12 ทีมสุดท้ายฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย
“ช้างศึก” ภายใต้การนำของ “ซิโก้”เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าผู้ฝึกสอนปรับทัพจากเกมดวลกับอิรักเมื่อกลางสัปดาห์หลายตำแหน่ง แต่ ธีราทร บุญมาทัน แบ๊กซ้ายกัปตันทีมยังลงเป็นกำหลังหลัก ร่วมกับ เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ และ มงคล ทศไกร
ฟากทีมเยือนของ อูลี สเตลิเก เปิดโอกาสให้ดาวเตะที่ค้าแข้งต่างประเทศแต่ยังไม่ได้เล่นต่อเนื่องใได้ลงสนามพิสูจน์ฝีเท้านำโดย กี ซอง ยอง กองกลางจากสโมสรสวอนซีในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ รวมถึง ซอก ฮยอน จุน กองหน้าจากเอฟซี ปอร์โต ลงเล่นเป็นตัวหลัก
เริ่มเกมทีมเยือนซึ่งมีดีกรีผ่านเกมฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายมาหลายสมัยเป็นฝ่ายเดินเกมบุกเข้าใส่ทันทีและแค่ 4 นาทีเท่านั้น ซอก ฮยอน จุน ได้โอกาสยิงจากนอบกรอบบอลพุ่งผ่านมือสินทวีชัย หทัยรัตนกุล ซุกก้นตาข่ายให้เกาหลีใต้ขึ้นนำอย่างรวดเร็ว 1-0
หลังจากเสียประตูไทยพยามดันเกมรุกมากขึ้นแต่ว่าการต่อบอลยังไม่ไหลลื่นเท่าที่ควร ผ่าน 20 นาทีได้ยิงเพียงครั้งเดียวแต่บอลไม่ตรงกรอบ ขณะที่เกาหลีใต้แม้จะเหนือกว่าแต่ไม่เร่งเกมรุกมากนักหันมาเล่นครองบอล ทำให้แทบไม่มีจังหวะลุ้นประตูมากนัก จบ 45 นาที เกาหลีใต้ขึ้นนำไทย 1-0
ครึ่งหลังไทยปรับทัพทีเดียว 4 คนรวดด้วยการส่ง สารัช อยู่เย็น, ชนาธิป สรงกระสินธ์, เจนรบ สำเภาดี, ปกเกล้า อนันต์ ลงเล่นแทน เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์, ประกิต ดีพร้อม, จักรพันธ์ แก้วพรม, สรรวัชญ์ เดชมิตร ก่อนที่อีกไม่กี่อึดใจจะเปลี่ยน มงคล ทศไกร ออกแล้วให้ พีระพัฒน์ โน้ตชัยยา ลงเล่นแทน
นาที 57 ไทยน่าตีเสมอจากลูกเตะมุมของธีราทร เปิดไปหน้าประตูให้ อดิศักดิ์ ได้แปในกรอบบอลชนกองหลังเกาหลีใต้กระดอนมาเข้ามือผู้รักษาประตู เกมของไทยดูดีขึ้นตามลำดับมีการต่อบอลที่แม่นยำลุ้นเจาะเข้าทำอย่างต่อเนื่อง สารัช ได้ยิงในกรอบแต่ยังติดมือผู้รักษาประตู
เกมผ่านมา 70 นาที เกาหลีใต้กลับมาเน้นการบีบไล่บอลแดนกลางบีบให้ไทยเล่นลำบากต่อบอลไม่ไหลลื่นเท่าต้นครึ่งหลัง อย่างไรก็ดีเกาหลีใต้เองยังไม่เร่งเกมมากเท่าไหร่นักทำให้ไม่มีจังหวะลุ้นประตูเท่าที่ควร
ช่วงท้ายเกมไทยแม้ว่าจะมีจังหวะหวือหวาในการเข้าทำแต่ว่าโอกาสยิงแบบได้ลุ้นยังไม่มีให้เห็นทำให้จบ 90 นาที ไทยอุ่นเครื่องพ่ายเกาหลีใต้หวุดหวิด 0-1
ที่มา khaosod.co.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น