Yengo

วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2559

สาวลวงแฟนเก่าออกมาให้หนุ่มคนใหม่จ่อยิง 3 นัด หมกสวนยางที่สงขลา

 เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 31 มี.ค. ร.ต.อ.ณรงค์ศักดิ์ พุดแก้ว รอยเวร สภ.ปาดังเบซาร์ รับแจ้งว่าพบศพชายวัยรุ่นเสียชีวิตอยู่ในป่าผาดำ ใกล้สะพานหมู่ 11 บ้านบาโรย ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา จึงรายงาน พ.ต.อ.วรชาติ รสจันทร์ ผกก.สภ.ปาดังเบซาร์ ทราบ และรุดไปที่เกิดเหตุพบศพนายนต์ทัช รัตนมณี อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่173/10 ม.7 ต.โคกโพธิ์ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี  เสียชีวิตลักษณะนอนคว่ำ มีหมวกแก็ปสีดำตกอยู่ข้างตัว สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดและชนิดที่ท้ายทอย 1 นัด สะโพก 1 นัด และแขน 1 นัด

 

 จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายมนต์ทัชเดินทางมากับเพื่อนชื่อ นายดำ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี ชาว อ.โคกโพธิ์ ทั้ง 2 ขี่รถจักรยานยนต์มาหาหญิงสาวคนหนึ่งตามนัดหมายที่บ้านบาโรย ใกล้สวนป่าสิริกิติ์ เมื่อวันที่ 30 มี.ค. ที่ผ่านมา เพื่อมาปรับความเข้าใจเรื่องปัญหาหัวใจ เนื่องจากฝ่ายหญิงมีแฟนใหม่เป็นคนในพื้นที่ จากนั้นหญิงสาวและแฟนใหม่ลวงทั้ง 2 คน ไปในจุดที่เกิดเหตุ แล้วใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาดจ่อยิงผู้ตาย 3 นัด ส่วนนายดำนั้นวิ่งหนี แต่คนร้ายไล่ตามแล้วใช้อาวุธยิงใส่ 1 นัด ได้รับบาดเจ็บวิ่งไปขอความช่วยเหลือชาวบ้าน นำส่งรพ.ปาดังเบซาร์

 


 จากการสอบปากคำ นายดำยังให้การสับสน เพราะมีอาการหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบมาดูแล เนื่องจากกลัวคนร้ายจะฆ่าปิดปาก เจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนและหาตัวคนผิดมาลงโทษตามกฎหมายต่อไป

 

 

 

 

 

 



ที่มา khaosod.co.th

สุดสะเทือนใจ แม่ยกมือไหว้-ร้องขอชีวิต!! ลูกชายเมาลากไปข่มขืน-ขู่ฆ่า ถามสุดหื่น

 วันที่ 31 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.มนตรี คงสง ร้อยเวร สภ.ห้วยยอด จ.ตรัง รับแจ้งเหตุจากนางบี (นามสมมติ) อายุ 62 ปี อยู่ ต.เขากอบ อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเดินทางมาพร้อมพี่สาว หลังถูกลูกชายแท้ๆ คือ นายเอ (นามสมมติ) อายุ 47 ปี อยู่บ้านเดียวกัน ลากตัวเข้าไปข่มขืนภายในบ้านจนสำเร็จความใคร่ พร้อมขู่ฆ่า หากนำเรื่องที่เกิดขึ้นไปแจ้งตำรวจหรือบอกใคร

 

 

 โดยนางบี ผู้เป็นแม่เล่าอย่างคับแค้นใจเป็นอย่างยิ่งว่า ไม่คาดคิดว่าเหตุการณ์แบบนี้จะมาเกิดขึ้นกับตน โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. วันที่ 30 มี.ค. โดยลูกชายของตน ได้ออกไปกินเหล้านอกบ้านแล้วกลับเข้ามาที่บ้าน ตอนประมาณตี 4 ซึ่งเป็นช่วงที่ต้องลุกขึ้นเปิดร้านเพื่อขายของชำให้กับคนกรีดยางเป็นประจำทุกวัน ขณะนั้นได้มีลูกค้า 2 คนมาซื้อน้ำมันรถแล้วกลับไป จากนั้นก็เดินมาเห็นร่องรอยของการงัดประตูบ้าน และเห็นลูกชายยืนอยู่ พร้อมกับพูดว่า ตนเองไม่ได้เป็นคนทำ ซึ่งก็ไม่ได้ว่ากล่าวอะไรไป  

 

 จากนั้นลูกชายก็ได้ฉุดกระชากตนเองเข้าไปในห้องนอนเพื่อจะข่มขืน พร้อมกับขู่ฆ่า หากร้องโวยวายเสียงดัง ซึ่งที่บ้านมีอาวุธปืน และมีดพร้า ซึ่งขณะนั้นตนเองกลัวลูกชายจะฆ่า จึงได้ส่งเสียงร้องดังลั่น พร้อมยกมือไหว้ลูกชายร้องขอชีวิต แต่ก็ไม่มีใครได้ยิน เพราะที่บ้านอาศัยอยู่กันเพียง 2 คน กระทั่งจำใจยอมให้ลูกชายขืนใจจนสำเร็จความใคร่ ไป 1 ครั้ง ขอเพียงแต่ไว้ชีวิตแม่

 

 จากนั้นก็ได้ทำใจดีสู้เสือ เพื่อขอร้องให้ลูกชายอาบน้ำแล้วไปกรีดยางด้วยกัน เพื่อหาเงินมาเลี้ยงปากท้อง ทำเหตุการณ์ทุกอย่างให้เป็นปกติที่สุด แต่ลูกชายก็ยังไม่สำนึก พร้อมกับถามแม่กลับไปว่า จะให้ได้อีกเมื่อไหร่ ซึ่งตนเองก็ตอบกลับไปว่า เมื่อไหร่ก็ได้ เพราะไม่มีใครเห็น อยู่กันเพียง 2 คน เพื่อให้ลูกชายใจอ่อนลง และยอมไปกรีดยาง

 

 ผู้เป็นแม่ ยังกล่าวต่ออีกว่า ลูกชายมักมีอาการแบบนี้ เมื่อดื่มเหล้าเข้าไป ซึ่งก่อนหน้านี้เคยจับได้ว่า เคยแอบดูตนเองอาบน้ำมาแล้ว 1 ครั้ง และเคยมีภรรยา มาแล้ว 2 คน แต่ก็เลิกรากันไป

 

 ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ลงพื้นที่ เพื่อติดตามตัวลูกชายมาลงโทษ แต่ลูกชายได้หนีออกไปจากบ้าน หลังเกิดเหตุ พร้อมนำปืนที่มีติดตัวไปด้วย โดยผู้เป็นแม่หวั่นไม่ปลอดภัย จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว


ที่มา khaosod.co.th

วันพุธที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2559

ข้อความสยอง!! พี่ชายวัย18 ใช้ไอโฟนส่งถึงน้องสาว สลดลาตาย-ชาวบ้านช็อกศพห้อย

 เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 30 มี.ค. ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสุรินทร์รายงานว่า ร.ต.ท.ทัศพล ชูบัว รองสารวัตรพนักงานสอบสวน สภ.ปราสาท จ.สุรินทร์ รับแจ้งมีเหตุชายหนุ่มผูกคอตายที่ต้นไม้ กลางทุ่งนา ทิศเหนือ หมู่บ้านรันเดง หมู่ 3 ต.โคกสะอาด หลังรับแจ้งพร้อม ด.ต.ประนวย จรัสใส ผบ.หมู่ สภ.ปราสาท หน่วยกู้ภัยกู้ชีพ อบต.โคกสะอาด แพทย์โรงพยาบาลปราสาท นายเรืองศักดิ์ ใจเพียร ผู้ใหญ่บ้านรันเดง ร่วมตรวจสอบ

 

 

 พบชาวบ้านรุมล้อม ยืนดูศพที่แขวนอยู่ใต้ต้นตะคร้อ ทราบชื่อ คือ นายปภพ อายุ 18 ปี โดยใช้เชือกไนล่อนมัดกิ่งไม้ รัดคอทิ้งร่างห้อยลงมา เป็นภาพสุดสลด ทั้งนี้พบโทรศัพท์อยู่ใต้ต้นไม้ เมื่อตัดเชือก นำร่างลงมาชันสูตรพลิกศพ ไม่พบบาดแผล ร่องรอยอื่นใด สภาพศพเริ่มตัวแข็ง คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3-4 ชั่วโมง สันนิษฐานเกิดจากปัญหาในครอบครัว ทำให้คิดสั้นผูกคอตายเอง   

 

 

 โดยเจ้าหน้าที่สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ครอบครัว พ่อแม่ผู้ตายหย่าร้างกัน นายปภพ อยู่กับพ่อ มีพี่น้อง ชาย-หญิง 2 คน ก่อนเกิดเหตุ เวลา 23.11 น. ที่ผ่านมา นายปภพ ได้ส่งข้อความถึงน้องสาวที่ กรุงเทพฯ ว่า “พี่ขอลาพ่อแม่ ตา ยาย ป้า พี่น้อง ผมขอไปตายที่นาของผม ขอให้ น้องพี่ มีความสุข ดูพ่อแม่ ด้วยครับ”  

 

 จากนั้นเวลา  00.45 น. ได้ปิดเครื่อง ขาดการติดต่อ กระทั่ง ชาวบ้านต้อนวัวควายไปผูกที่ท้องนา ก็ถึงกับตกใจ เมื่อพบศพ นายปภพ ผูกคอตายดังกล่าว  

 


ที่มา khaosod.co.th

วันอังคารที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2559

แม่พาลูกสาววัย 15 เอี่ยวทีมฆ่าหนุ่มฝังดิน-โยนสาวทิ้งเหวที่พัทลุง เข้ามอบตัว

จากกรณีกลุ่มวัยรุ่นฆ่าโหดนายภาสกร คงสวัสดิ์ อายุ 18 ปี ชาวจ.พัทลุง แล้วนำไปฝังบนเขาบรรทัด จากนั้นข่มขืนทำร้ายร่างกาย น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 21 ปี แฟนของนายภาสกรณ์ ก่อนที่จะนำโยนทิ้งลงไปในเหวเขาพับผ้า ริมถนนสายเพชรเกษม พัทลุง-ตรัง ท้องที่ต.กะช่อง อ.นาโยง จ.ตรัง โดยเหตุเกิดที่บริเวณป่าริมเทือกเขาบรรทัด ม.4 ต.บ้านนา อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง เมื่อวันที่ 27 ม.ค. ที่ผ่านมา ต่อมาเจ้าหน้าที่จับกุมผู้ต้องหาได้ 6 ราย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

 

 เมื่อวันที่ 29 มี.ค. ที่สภ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง นางแดง (นามสมมุติ) บ้านอยู่ที่ อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง มารดาเยาวชนหญิงอายุ 15 ปี ที่ถูกออกหมายจับพัวพันคดีฆ่านายภาสกร คงสวัสดิ์ อายุ 18 ปี ชาวจ.พัทลุง แล้วฝังศพก่อนจะข่มขืนแฟนสาว นำตัวลูกสาวเข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.วิชัย วิชยานฤพล ผกก.สภ.ศรีนครินทร์ หลังถูกออกหมายจับในข้อหา เป็นผู้สนับสนุนกักขังหน่วงเหนี่ยวทำให้สูญเสียอิสระภาพ เมื่อวันที่ 27 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีนครินทร์ สามารถจับกุมผู้ต้องไปได้แล้วจำนวน 6 คน

 


 พ.ต.อ.วิชัย กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องออกหมายจับเยาวชนหญิงอายุ 15 ปี เนื่องจากเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบมือถือของเยาวชนคนดังกล่าว พบว่ามีข้อความนัดแนะให้นายภาสกรผู้เสียชีวิตมาเจอกันที่บริเวณหน้าวัดลำกะ ก่อนเกิดเหตุฆ่าแล้วฝัง สำหรับในคดีดังกล่าวตัวเยาวชนหญิงเป็นคนสุดท้ายที่เจ้าหน้าที่สามารถรวบรวมพยานหลักฐานและออกหมายจับได้


 อย่างไรก็ตาม ในขั้นต้นเยาวชนหญิง วัย 15 ปี ให้การว่า ตนไม่รู้เรื่องว่านายคิวจะก่อเหตุดังกล่าว ส่วนโทรศัพท์ของตนนั้นนายคิว ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้เป็นคนนำไปใช้ เพื่อนัดแนะให้นายภาสกรออกมาพบ เนื่องจากตนเคยเป็นแฟนเก่าของนายภาสกร เมื่อนายคิวใช้โทรศัพท์ของตน ทำให้นายภาสกรหลงเชื่อ และออกมาพบจนเกิดเหตุดังกล่าว ซึ่งตนไม่มีส่วนรู้เห็นเลย ปกตินายคิวก็ใช้มือถือตนเล่นอินเตอร์เน็ตและโทรอยู่บ่อยครั้ง

 
 สำหรับในส่วนของการดำเนินคดีกับเยาวชนหญิง อายุ 15 ปี คนดังกล่าว หลังจากนี้ทางพนักงานสอบสวนจะทำการสอบสวน ต่อหน้านักจิตวิทยาหรือนักสังคมสงเคราะห์ ที่ปรึกษากฎหมายและพนักงานอัยการ เพื่อเร่งสรุปสำนวนส่งอัยการ เพื่อฟ้องต่อศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดพัทลุงต่อไป

 

 

 



ที่มา khaosod.co.th

Iron Man มหาประลัยคนเกราะเหล็กในแบบที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน!!

Iron man ซุปเปอร์ฮีโร่สุดยียวนที่เป็นหนึ่งในสมาชิกหลักผู้ก่อตั้งอเวนเจอร์หรือที่คนรู้จักเขาในนามของ โทนี่ สตาร์ค มหาเศรษฐีเพลย์บอยแห่ง Stark Industries แต่คุณผู้อ่านทราบกันหรือไม่ว่านอกจากเราจะได้เห็นชุดเกราะเขาในแบบฉบับภาพยนตร์แล้ว โทนี่ สตาร์คยังมีชุดเกราะในแบบอื่นๆ ที่คุณไม่เคยเห็นอยู่อีกวันนี้ Rabbit Dailly ได้รวบรวมชุดเกราะสุดเจ๋งของเขามาให้คุณรู้จักกันมากขึ้น

5.Anti-Magneto Suit

Iron-man-magneto

ชุดเกราะตัวนี้เป็นชุดเกราะที่ โทนี่ สตาร์ค พัฒนาขึ้นมาเพื่อเอาไว้ใช้จัดการกับ Magneto ในเหตุการณ์ Avengers VS X- Men ซึ่งจุดเด่นของชุดเกราะตัวนี้ก็คือมันเป็นเกราะที่ถูกผลิตออกมาด้วย Nano Magnotube เพื่อต่อต้านแรงดึงดูดของ Magneto เอาไว้ใช้จัดการกับผู้อื่น จึงมีคุณสมบัติที่จะต่อกรกับจ้าวมิวแทนต์ผู้ควบคุมพลังแม่เหล็กได้

4.Thorbuster

Iron_Man_Thorbuster.

ชุดเกราะที่ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อเอาไว้ใช้รับมือกับ Thor เทพเจ้าสายฟ้า ชุดเกราะชุดนี้ใช้แหล่งพลังงานจากอัญมณีของแอสการ์ดที่ธอร์มอบให้กับชาวโลกเพื่อผลิตพลังงานบริสุทธิ์มาไว้ใช้งานเป็นแหล่งสำรองให้กับมนุษย์ในช่วงเหตุการณ์ที่แอสการ์ดตกลงมายังโลก ในช่วงหนึ่งความสัมพันธ์ระหว่างแอสการ์ดและโลกลดลงทำให้ธอร์เลือกที่จะหันหลังให้กับโลกเพื่อที่จะปกป้องแอสการ์ด โทนี่ สตาร์คจึงต้องสวมชุดเกราะนี้เพื่อเข้าต่อสู้กับธอร์ ผลของการต่อสู้ก็คือ…ธอร์ฉีกกระชากชุดเกราะตัวนี้จนแหลกคามือ

3.Anti-Transformer Armor

โทนี่  สตาร์ค ผลิตชุดเกราะตัวนี้ขึ้นมาในช่วงเหตุการณ์ครอสโอเวอร์ระหว่าง Transformer และ Marvel โทนี่ สตาร์คผลิตชุดเกราะตัวนี้ขึ้นมาเพื่อป้องกันการรุกรานของเหล่า Decepticons หุ่นยนตร์ตัวร้ายจากเรื่อง Transformer ซึ่งในท้ายที่สุดแล้วโทนี่ก็ได้เข้าปะทะกับ Megatron ผู้นำของเหล่าร้ายซึ่งในท้ายที่สุดแล้วชุดเกราะตัวนี้ก็ถูกทำลายลงอย่างราบคาบไปอีกตัว

2.Hulkbuster MK 2

ชุดเกราะตัวนี้ได้รัการพัฒนาต่อยอดมาจากชุดเกราะ Hulkbuster ตัวแรกที่โทนี่เคยใช้ในการต่อกรกับ Hulk มาคราวนี้โทนี่ได้ผลิตชุดเกราะตัวพิเศษนี้ขึ้นมาเพื่อต้อนรับการมาเยือนของ Hulk ภายหลังจากที่เหล่า Illuminati ได้จัดการส่ง Hulk ออกไปนอกโลกจากเหตุการณ์นี้ได้ส่งผลให้เกิด Event World War Hulk ขึ้น โทนี่ได้ใช้ชุดเกราะนี้ในการเข้าต่อสู้กับ Hulk แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ Hulk ได้จัดการฉีกชุดเกราะตัวนี้ทิ้งอีกเช่นเคย (บางทีเราก็ไม่ค่อยอยากจะนับแล้วว่ามีชุดเกราะกี่ตัวที่ถูกฉีกกระชากไปอย่างเปล่าๆ ปลี้ๆ…) 

1.Sorcerer Supreme Armor

socerer

จากเหตุการณ์ที่ว่าถ้าโทนี่ สตาร์คประสบอุบัติเหตุทางรถยนตร์กับ Dr.Stephen Strange จะเกิดอะไรขึ้นซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลให้เพื่อนของเขาพิการ โทนี่ ที่รู้สึกผิดจึงออกเดินทางเพื่อหาวิธีมารักษาเพื่อนของเขาให้หาย ในท้ายที่สุดนั้นโทนี่ก็ได้รับพลังวิเศษมาจากจอมเวทย์สูงสุดบวกกับความเก่งกาจทางด้านวิทยาศาตร์ของเขาส่งผลให้เวทย์มนต์และวิทยาศาสตร์ต้องมาเจอกันจึงได้ก่อให้เกิดเป็นจอมเวทย์ Ironman ขึ้นมาจุดเด่นของชุดเกราะตัวนี้ก็คือความสามารถในการใช้เวทย์มนต์นั้นเอง

ดังที่เห็นว่าชุดเกราะของ Iron man ส่วนมากเป็นชุดเกราะที่ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อใช้ในสถานการณ์ที่แตกต่างกันไป แต่ก็เช่นเดียวกันที่หลายๆครั้งชุดเกราะของ Ironman มักจะถูกทำลายทิ้งอย่างง่ายดายโดยศัตรูของเขาจนพังไปแทบจะทุกชุด แต่เขาก็ยังคงไม่ยอมแพ้และลุกขึ้นมาผลิตเกราะและนำไปใช้ในการต่อสู้กับศัตรูหน้าใหม่ของเขาอยู่เสมอ (อันนี้อาจจะต้องนับว่าตระกูล Stark นั้นรวยทะลุล้นฟ้าไม่รู้เรื่องด้วยแล้วล่ะก็นะ…) 

ท่านผู้อ่านเชื่อหรือไม่ว่าในช่วงแรกที่ Stan Lee ออกแบบตัวละครตัวนี้ขึ้นมานั้นเขามีแนวคิดสุดประหลาดที่แตกต่างจากซุปเปอร์ฮีโร่ร่วมสมัยคนอื่นๆที่มักจะเป็นคนดีและถึงแม้จะทำข้อผิดพลาดมาบ้างแต่ก็ไม่เคยทำผิดตลอด แต่โทนี่นั้นถูกสร้างขึ้นมาภายใต้เงื่อนไขที่ว่าตัวละครตัวนี้จะต้องเป็นตัวละครที่คนเกลียดกันด้วยลักษณะของเขาแต่จะทำอย่างไรให้คนหันมาชอบตัวละครตัวนี้ซึ่งสุดท้ายแล้วทาง Marvel ก็ถือได้ว่าประสบความสำเร็จในการสร้างตัวละครที่มีคนชื่นชอบมากที่สุดในโลกอย่าง โทนี สตาร์ค หรือยอดมนุษย์เหล็ก Iron man

The post Iron Man มหาประลัยคนเกราะเหล็กในแบบที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน!! appeared first on Rabbit.


ที่มา Rabbit

จำได้ไหม?? “ประเทศไทยปี 2527” เยาวราช – ตลาด -โรงหนัง จากเลนส์ช่างภาพชาวญี่ปุ่น

พูดถึงประเทศไทยสมัยนี้ ไม่ว่าจะที่ไหนก็คงได้เห็นแต่ความเจริญ แสงสี และรถที่ติดอยู่ตลอดเวลา กลายเป็นภาพชินตาของคนไทยสมัยนี้อยู่ไม่น้อย และหากต้องย้อนกลับไปเมื่อช่วงทศวรรษ 1980 แล้ว หลายคนก็อาจจะลืมเลือนไปแล้ว

ช่างภาพชาวญี่ปุ่นอย่าง Doi Kuro ที่เดินทางท่องเที่ยวไปยังประเทศต่างๆในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประเทศไทยในปี พ.ศ.2527 จึงได้โพสต์ภาพประเทศไทยในความทรงจำที่เขาได้บันทึกไว้ระหว่างเดินทางไปจังหวัดต่างๆของไทยไว้ในเฟซบุ๊กส่วนตัว ที่ทำให้ได้เห็นเมืองไทยในมุมต่างๆ อย่าง เยาวราช , โรงภาพยนตร์ในกรุงเทพฯ, ทางรถไฟ จ.กาญจนบุรี รวมไปถึงตลาดที่จ.เชียงใหม่

เรียกความทรงจำให้กับคนยุค 80 ไม่น้อยทีเดียว

1534821_585167668286417_4706991376969650331_o
เยาวราช
10943677_585397711596746_4118648573355279519_o
เยาวราช
10955583_586482834821567_4367193635820895845_o
ร้านขายถั่ว เยาวราช
10344391_592923224177528_8768350489957653751_o
กรุงเทพฯ
10446282_584556888347495_2739696588559500717_o
ไฟแดง ในกรุงเทพฯ
10828139_587806451355872_5259471738564773464_o
กรุงเทพฯ
10835024_591979244271926_212831698340096683_o
หน้าทุเรียน ที่กาญจนบุรี
ถนนสุขุมวิท
ถนนสุขุมวิท
10857292_584360065033844_4745788393272577561_o
โรงภาพยนตร์ ที่เชียงใหม่
10866035_585593284910522_1475586120570501489_o
เหล่านักเรียนที่เชียงใหม่
10915083_592248324245018_7911439937455204852_o
ตลาด ที่เชียงใหม่
10857292_590433834426467_4854603920043410759_o
เหล่าสามล้อที่เชียงใหม่
10955200_584990248304159_3327256086829292115_o
โฆษณาหลังสามล้อ ที่เชียงใหม่
10860855_592439867559197_8316848245799297989_o
สยามสแควร์
10861002_587408608062323_490253443522688788_o
แท็กซี่ ที่กรุงเทพฯ
10866093_593474874122363_1933288710988215997_o
รถบรรทุก กรุงเทพฯ
10918953_586003291536188_1487062409522744657_o
ซ่อมรถ กรุงเทพฯ
10945907_586206418182542_1487978625339641198_o
เชียงใหม่
1272244_587524261384091_7197903723691647700_o
เชียงราย
10958828_586596248143559_3854853257570712147_o
ร้านขายของชำ กรุงเทพฯ
10960358_584782834991567_2183774046506134097_o
กรุงเทพฯ
10982229_593136720822845_5357535996386696679_o
ตลาดริมน้ำ เชียงใหม่
10986487_585816471554870_4663859728825175714_o
กรุงเทพฯ
11004596_590665791069938_8516068067144884300_o
ร้านปาท่องโก๋ กรุงเทพฯ
10896437_598813620255155_443420685587212082_o
ร้านน้ำชา กรุงเทพฯ

ขอบคุณภาพจาก Doi Kuro

The post จำได้ไหม?? “ประเทศไทยปี 2527” เยาวราช – ตลาด -โรงหนัง จากเลนส์ช่างภาพชาวญี่ปุ่น appeared first on มติชนออนไลน์.


ที่มา ไลฟ์สไตล์ – มติชนออนไลน์

สั่งถอนใบขับขี่ แท็กซี่สุวรรณภูมิ โกงชาวต่างชาติ คิดค่าโดยสาร 6000 ไปแค่สาทร

251

หลังจากที่โลกออนไลน์แห่แชร์ กรณีสมาชิกเฟซบุ๊กชื่อว่า Krit Karnchanabatr โพสต์ข้อความร้องเรียน พบโชเฟอร์แท็กซี่สุวรรณภูมิคิดค่าโดยสารชาวต่างชาติ จากสนามบินสุวรรณภูมิ ไปโรงแรมย่านสาทร ในราคาเหมา 6 พันบาท โดยไม่กดมิเตอร์ จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากชาวเน็ตจำนวนมาก

249

ล่าสุดวันนี้ กองตรวจการขนส่งทางบก กรมการขนส่งทางบก ได้ชี้แจงว่า หลังจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า นายพิพัฒน์พล ใจคำ ผู้ขับรถแท็กซี่ ทะเบียน มฉ 936 ที่ปรากฎในข่าว กระทำความผิดจริงฐานทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยว และผิดฐานเรียกเก็บค่าโดยสารเกินอัตราที่ทางราชการกำหนด ตามมาตรา 66/5 แห่งพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 ได้ปรับเป็นจำนวนเงิน 3,000 บาท และมีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ โดยให้สิทธิยื่นอุทธรณ์คำสั่งภายใน 15 วัน

ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นการให้บริการรถแท็กซี่ไม่เป็นธรรม เอาเปรียบผู้โดยสาร สามารถร้องเรียนได้ที่ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียน สายด่วน โทร.1584 ตลอด 24 ชั่วโมง

ขอบพระคุณที่มาโดย  http://www.thairath.co.th


ที่มา Tag hr

สลด!รถพ่วงชนจยย.คาสี่แยกบางระจัน ทับร่างเด็กม.3เละดับสยอง 2 ศพ ที่นครชัยศรี

 เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 29 มี.ค. พ.ต.ท.ปรัชญา พงษ์อัมพรสกุล รอง ผกก.สอบสวน สภ.นครชัยศรี จ.นครปฐม รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วงชนกับรถจักรยานยนต์มีผู้เสียชีวิต 2 ราย เหตุเกิดสี่แยกบางระจัน หมู่ 5 ต.ห้วยพลู อ.นครชัยศรี หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และเดินทางไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม

 

   ในที่เกิดเหตุเป็นสี่แยก บนถนนพบศพนายธนบดี เชาวันดี อายุ 16 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดปุรณาวาส เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร สภาพศพนอนเสียชีวิตจมกองเลือด แต่งกายชุดนักเรียนกีฬา ขาหักทั้ง 2 ข้าง ลำตัวมีรอยล้อทับ ใกล้กันพบศพนายวรรธนัย เชื้อน้อย อายุ 15 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18/155 หมู่ 4 ต.มหาสวัสดิ์ อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาเหมือนกันสวมชุดนักเรียนเสื้อสีขาว กางเกงขาสั้น สภาพศพมีรอยล้อรถทับที่ใบหน้าแขนหัก คอหัก

 


 ห่างออกไปอีกประมาณ 300 เมตร มุ่งหน้าไปทางวัดห้วยพลู พบรถบรรทุกสิบล้อพ่วง อีซูซู ตัวแม่ทะเบียน 83-3879 สุพรรณบุรี ตัวลูกพ่วงทะเบียน82-0691 สุพรรณบุรี ที่ล้อหลังด้านซ้ายตัวแม่พ่วงพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า ซูมเมอร์ เอ็กซ์ ZOOMER-X สีเหลืองดำ ทะเบียน 1 กษ9898 กทม. ล้มคว่ำอยู่ใต้ท้องรถสภาพพังเละเสียหายทั้งคัน เศษชิ้นส่วนรถกระจัดกระจายทั่วพื้นถนน

 
 นายลำดวน ใจตรง อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 125 หมู่ 11 ต.ทุ่งลูกนก อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม คนขับรถบรรทุกพ่วง ให้การว่า ตนขับรถบรรทุกดินไปส่งที่วัดมะเกลือ อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม เสร็จแล้วจึงขับรถเปล่ากลับมา โดยมาตามถนนสี่แยกดังกล่าว เมื่อมาที่เกิดเหตุซึ่งเป็นสี่แยกไฟแดง ตนจะวิ่งทางตรงและเห็นรถกระบะทางด้านขวามาจาก ต.บางพระจะเลี้ยวออกมา จึงเปิดไฟขอทางและขับรถมุ่งหน้า แต่ปรากฏว่าหันมามองทางซ้าย ซึ่งเป็นถนนมาจากต.ลานตากฟ้า มีของผู้ตายวิ่งออกมา ตนเบรกไม่ทันเลยชนรถจักรยานยนต์และทับรถพอดี จึงรีบจอดลงมาดูพบว่าเสียชีวิตแล้ว


 จากนั้น จึงรีบโทรแจ้งตร. หลังจากตรวจสอบที่เกิดเหตุโดยละเอียดแล้ว ตร.ได้บักทึกภาพพร้อมลงบันทึกประจำวัน และจะสอบปากคำพยานผู้เห็นเหตุการณ์ เพื่อหาข้อเท็จจริงต่อไป พร้อมกับนำศพส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลห้วยพลู ติดต่อญาติผู้ตายมารับศพไปดำเนินการตามประเพณี

 



ที่มา khaosod.co.th

ทบ.เตือนชายไทยเข้าเกณฑ์ทหาร 1-12 เม.ย.นี้ ขู่รู้ทันกลโกงเลี่ยงการตรวจเลือก

 เมื่อวันที่ 29 มี.ค. ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ) พ.อ.หญิงศิริจันทร์ บาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยถึงการตรวจเลือกทหารกองเกิน เข้ารับราชการเป็นทหารกองประจำการประจำปี 2559 ว่าทางกองทัพบก จะทำการตรวจเลือกทหารกองเกิน เข้ารับราชการเป็นทหารกองประจำการ ระหว่าง 1-12 เม.ย.นี้ ว่า ผู้ที่จะต้องเข้ารับการตรวจเลือกฯ ในปีนี้ ได้แก่ผู้ที่เกิดปีพ.ศ.2538 (อายุ 21 ปีบริบูรณ์) กับผู้ที่เกิด พ.ศ.2530-2537 (อายุ 22-29 ปีบริบูรณ์) เฉพาะคนที่ยังไม่เคยเข้ารับการตรวจเลือก ซึ่งขณะนี้ทางราชการจัดเตรียมความพร้อมทั้งสถานที่ตรวจเลือก คณะกรรมการตรวจเลือกประจำพื้นที่ ทั้งฝ่ายทหาร และฝ่ายปกครอง ที่จะอำนวยความสะดวกให้กับชายไทยที่ต้องเข้ารับการตรวจเลือก โดยได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากฝ่ายปกครองในแต่ละพื้นที่ ในเรื่องการจัดสถานที่ตรวจเลือกให้มีความเหมาะสมกับจำนวนของผู้ที่เข้ารับการตรวจเลือก พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก

 

 พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวต่อว่า ทางกองทัพบกขอแจ้งเตือนให้ผู้ที่จะต้องเข้ารับการตรวจเลือกได้ตรวจสอบ และเตรียมตัวในเรื่องที่สำคัญ ดังนี้ 1.การตรวจสอบหมายนัด (สด.40) ว่าทางราชการกำหนดให้ไปเข้ารับการตรวจเลือกในวัน เวลา และสถานที่ใด ต้องไปให้ตรงตามหมายนัด หากมีเหตุจำเป็นฉุกเฉินให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่สัสดีทันที 2.การเตรียมหลักฐานประกอบการเข้ารับการตรวจเลือก อาทิ บัตรประชาชน เอกสารทางการแพทย์/ ใบรับรองแพทย์ ทั้งที่ออกโดยโรงพยาบาลในสังกัดกองทัพบก สำหรับผู้ที่เข้ารับการตรวจโรคก่อนตรวจเลือกและใบรับรองแพทย์ที่ออกโดยโรงพยาบาลทั่วไป เพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการตรวจเลือก และ 3.การเตรียมสภาพร่างกายให้พร้อมเข้ารับการตรวจเลือก


 รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า สำหรับการตรวจเลือกในปีนี้ ในบางหน่วยตรวจเลือก โดยเฉพาะในพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 และกรุงเทพมหานคร ทางราชการได้มีการปรับเปลี่ยนวัน เวลาและสถานที่ เพื่ออำนวยความสะดวกให้การตรวจเลือกรวดเร็วขึ้น จึงขอให้ผู้ที่เข้ารับการตรวจเลือกได้ศึกษาข้อมูลในหมายเรียกให้ชัดเจน รวมทั้งขออย่าได้หลงเชื่อกลุ่มบุคคลหรือมิจฉาชีพที่มีพฤติกรรมแอบอ้างว่า สามารถช่วยเหลือให้เป็นหรือไม่เป็นทหารได้ รวมทั้งกรณีการย้ายทะเบียนบ้านไปในพื้นที่ที่คิดว่าจะมีผู้สมัครเป็นทหารเต็มจำนวนแล้ว จะได้ไม่ต้องถูกคัดเลือกให้เป็นทหาร ซึ่งเรื่องนี้ทางราชการได้มีการแบ่งค่าเฉลี่ยจำนวนผู้ที่ต้องเป็นทหารกองประจำการ ทำให้ทุกพื้นที่มีอัตราการเป็นทหารเท่ากัน ดังนั้นการแอบอ้างเรื่องการย้ายที่อยู่จึงไม่มีผลต่อการตรวจเลือกทหาร


 “ขอเตือนไปยังผู้ที่เข้ารับการตรวจที่พยายามใช้กลวิธีต่างๆ เพื่อหลีกเลี่ยงหรือหลอกลวงให้เจ้าหน้าที่คิดว่า ตนเองมีข้อจำกัดในการเป็นทหารนั้น ทางราชการเตรียมแนวทางดำเนินการต่อกลวิธีดังกล่าวไว้แล้ว โดยยึดถือตามหลักเกณฑ์และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง จึงขอให้ได้เข้าสู่กระบวนการตรวจเลือกตามความเป็นจริง และขอย้ำว่าถ้าทุกคนได้ผ่านขั้นตอน ตามกระบวนการตรวจเลือกโดยครบถ้วนแล้ว จะได้รับใบรับรองผลการตรวจเลือก (สด.43) จากประธานกรรมการตรวจเลือก ในวันที่เข้ารับการตรวจเลือก หากได้รับใบ สด.43 จากบุคคลอื่นในวันอื่นถือว่าไม่ใช่เอกสารที่ทางราชการออกให้"พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าว


 สำหรับรายละเอียดในการตรวจเลือก รวมถึงข้อสงสัยและข้อควรปฏิบัติอื่นๆ สามารถสอบถามได้ที่ สัสดีจังหวัด สัสดีเขต/อำเภอ หรือที่กองการสัสดี หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน โทร. 0-2223-3257 และ www.sassadee.com



ที่มา khaosod.co.th